บุตร
ในปัจจุบันผู้มาขอรับคำพยากรณ์ มักไม่ค่อยสอบถามเรื่องบุตรเท่าไหร่นัก อาจเป็นเพราะความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ เช่น อยากทราบเพศของบุตร ก็สามารถทราบได้อย่างสะดวกรวดเร็วและแน่นอนกว่า
อย่างไรก็ตามทางฝ่ายโหราศาสตร์ก็มีหลักการอยู่ แต่ก็เป็นเรื่องยุ่งยากอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
หากเป็นดวงชะตาของฝ่ายหญิง แล้วต้องการทราบว่าจะมีบุตรหญิงหรือไม่ จำนวนเท่าใด ให้พิจารณาดาวในภพปุตตะและภพศุภะรวมกัน ถ้าต้องการทราบว่าจะมีบุตรชายหรือไม่ จำนวนเท่าใด ให้ใช้ภพปัตนิเป็นลัคนาและให้พิจารณาดาวในภพปุตตะและศุภะรวมกัน
หลังจากนั้นก็ไปดูแบบเดียวกันนี้ในดวงชะตาของฝ่ายชาย คือเมื่อต้องการทราบว่าจะมีบุตรชายหรือไม่ จำนวนเท่าใด ให้พิจารณาดาวในภพปุตตะและภพศุภะรวมกัน ถ้าต้องการทราบว่าจะมีบุตรหญิงหรือไม่ จำนวนเท่าใด ให้ใช้ภพปัตนิเป็นลัคนาและให้พิจารณาดาวในภพปุตตะและศุภะรวมกัน
จากนั้นให้นำผลของทั้งสองดวงชะตามาเทียบกัน หากมีดาวที่แสดงว่าเป็นบุตรหญิงหรือบุตรชายที่ตรงกัน (แล้วแต่กรณี) นั่นคือบุตรที่แท้จริงอันพึงจะมีได้
*หากบุตรคนใดตรงกับดาวศุกร์ ก็แสดงความหมายได้ว่า รักบุตรคนนั้นมากเป็นพิเศษ
ดาวในภพปุตตะ ถือเป็นบุตรคนแรกหรือกลุ่มแรก ส่วนดาวในภพศุภะ ถือเป็นบุตรคนที่สองหรือกลุ่มที่สอง ซึ่งบุตรจะมีอายุค่อนข้างห่างกันระหว่างกลุ่มที่หนึ่งกับกลุ่มที่สอง
*กรณีเจ้าเรือนภพเกณฑ์ลัคนา สถิตในภพปุตตะหรือภพศุภะ มีโอกาสที่จะเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูบุตรบุญธรรม โดยเป็นฝ่ายไปขอเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรม
หากเจ้าเรือนภพเกณฑ์ปัตนิ สถิตในภพปุตตะหรือภพศุภะ ก็หมายความว่า ฝ่ายคู่ครองเป็นฝ่ายไปขอเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรม
เมื่อพบพระเคราะห์ที่แสดงสัญลักษณ์ของบุตรที่แท้จริงแล้ว หากพระเคราะห์นั้นเป็นนวางค์อริ มรณะหรือวินาศนะกับลัคนาทางราศีจักร ก็อาจมีความหมายว่า มีการแท้งบุตรคนนั้นก็ได้ หรือหากมีการแท้งบุตรมาก่อน แต่ต้องการทราบว่าเป็นบุตรหญิงหรือบุตรชาย ผู้พยากรณ์ก็สามารถให้คำตอบนี้ได้
กรณีที่ผู้มาขอรับคำพยากรณ์เป็นโสดหรือเคยมีคู่แต่ไม่เคยมีบุตรมาก่อนเลย สามารถพยากรณ์โดยเปลี่ยนจากบุตรมาเป็นหลานได้
แต่ในทางปฏิบัตินั้น การพิจารณาเรื่องราวเกี่ยวกับบุตรนี้ อาจมีเงื่อนไขมากมาย เช่น
1. หากพบว่าไม่มีบุตรเลยหรือไม่ตรงกันเลย อาจต้องพิจารณาพระเคราะห์ทางฝ่ายเรือน (ตนุลัคน์)
2. ปัญหาการหาลัคนาจรตามตำแหน่งคู่ครอง กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย ผ่านการมีคู่ครองมามากกว่าหนึ่งคน
3. อาจต้องใช้นวางค์จักรเพื่อมาขยายความหมายเพิ่มเติม
ดาวในภพปุตตะ ถือเป็นบุตรคนแรกหรือกลุ่มแรก ส่วนดาวในภพศุภะ ถือเป็นบุตรคนที่สองหรือกลุ่มที่สอง ซึ่งบุตรจะมีอายุค่อนข้างห่างกันระหว่างกลุ่มที่หนึ่งกับกลุ่มที่สอง
*กรณีเจ้าเรือนภพเกณฑ์ลัคนา สถิตในภพปุตตะหรือภพศุภะ มีโอกาสที่จะเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูบุตรบุญธรรม โดยเป็นฝ่ายไปขอเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรม
หากเจ้าเรือนภพเกณฑ์ปัตนิ สถิตในภพปุตตะหรือภพศุภะ ก็หมายความว่า ฝ่ายคู่ครองเป็นฝ่ายไปขอเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรม
เมื่อพบพระเคราะห์ที่แสดงสัญลักษณ์ของบุตรที่แท้จริงแล้ว หากพระเคราะห์นั้นเป็นนวางค์อริ มรณะหรือวินาศนะกับลัคนาทางราศีจักร ก็อาจมีความหมายว่า มีการแท้งบุตรคนนั้นก็ได้ หรือหากมีการแท้งบุตรมาก่อน แต่ต้องการทราบว่าเป็นบุตรหญิงหรือบุตรชาย ผู้พยากรณ์ก็สามารถให้คำตอบนี้ได้
กรณีที่ผู้มาขอรับคำพยากรณ์เป็นโสดหรือเคยมีคู่แต่ไม่เคยมีบุตรมาก่อนเลย สามารถพยากรณ์โดยเปลี่ยนจากบุตรมาเป็นหลานได้
แต่ในทางปฏิบัตินั้น การพิจารณาเรื่องราวเกี่ยวกับบุตรนี้ อาจมีเงื่อนไขมากมาย เช่น
1. หากพบว่าไม่มีบุตรเลยหรือไม่ตรงกันเลย อาจต้องพิจารณาพระเคราะห์ทางฝ่ายเรือน (ตนุลัคน์)
2. ปัญหาการหาลัคนาจรตามตำแหน่งคู่ครอง กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย ผ่านการมีคู่ครองมามากกว่าหนึ่งคน
3. อาจต้องใช้นวางค์จักรเพื่อมาขยายความหมายเพิ่มเติม
