ลัคนา
โลกที่เราอยู่กันทุกวันนี้ ประกอบด้วยพืชพันธุ์ มนุษย์ และสัตว์ สำหรับพืชพันธุ์นั้นต้องการน้ำ ส่วนมนุษย์และสัตว์ต้องได้รับจิตที่มีการเวียนว่ายตายเกิด มาปฏิสนธิกับร่างกาย เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ต่อไป ซึ่งพระจันทร์ถือเป็นธาตุน้ำ หมายถึง จิตใจ
ดวงจันทร์มีสถานะเป็นบริวารของโลก จึงถือว่าดวงจันทร์เป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกันกับโลก พระจันทร์ทางฝ่ายโหราศาสตร์ มีสถานะเป็นจุดตั้งรับทุกสิ่งทุกอย่าง เสมือนกับโลกที่เราอยู่กันนี้ ซึ่งเป็นส่วนฐานของดวงชะตา เป็นที่มาของคำว่า "ลัคน์จันทร์"
หากพระจันทร์กุมลัคน์ เรียกว่า ลัคน์ปฏิสนธิ ท่านว่า จะสามารถทอนทุกข์โทษลงได้กึ่งหนึ่ง
ลัคนาเป็นส่วนกำหนดให้บังเกิดจุดเริ่มต้นเรื่องราวทางฝ่ายภพและเชื่อมโยงกันกับฝ่ายอื่นทั้งหมดในดวงชะตา มีสถานะเป็นภพอรุณรุ่งของชีวิต ซึ่งเป็นทิศตะวันออก เชื่อมโยงอยู่กับพระจันทร์ผู้รักษาทิศบูรพา
หากลัคนาเปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ พระอาทิตย์ (๑) คือ ราก พระจันทร์ (๒) คือ แก่นหรือต้น พระอังคาร (๓) คือ ใบ พระพุธ (๔) คือ ดอก พระพฤหัสบดี (๕) คือ ผล พระศุกร์ (๖) คือ เปลือก พระเสาร์ (๗) คือ กิ่งก้าน และพระราหู (๘) คือ ด้วงแมลง
อาจมีนักพยากรณ์หลายท่าน วางลัคนาตามเวลาเกิดจริงแล้วกระทำการพยากรณ์ไม่ได้ผล เลยไม่ทราบว่าจะใช้หลักการพยากรณ์ด้านใดเป็นรากฐานในการพิจารณา ในที่สุดนักโหราศาสตร์กลุ่มหนึ่งหรือหลายกลุ่มก็ลงความเห็นเข้าข้างตนเอง หาว่าลัคนาตามระบบสุริยยาตร์นั้นไม่ถูกต้อง แล้วจัดสร้างวิธีการหาลัคนาแบบใหม่ ๆ ขึ้นมา
โลกของเราแม้ว่าจะกลมก็จริง แต่ก็ไม่ได้กลมดิกเหมือนหน้าปัดนาฬิกา เนื่องจากพื้นผิวก็มีทั้งที่ราบและที่ชัน อันโตนาทีสุริยยาตร์ก็อาจทำให้วางลัคนาผิดเพี้ยนไปได้ จึงขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงเป็นสิ่งสำคัญด้วย
นักดูหมอบางท่านอาจเคยพบนักพยากรณ์ชนิดที่เที่ยวทดลองย้ายลัคนาดวงชะตาของท่าน แล้วทดลองทำนายดูว่าลัคนาอยู่ตรงไหนเหมาะสม ก็ถือว่าลัคนาอยู่ราศีนั้น แต่ก็ควรมีฐานหรือหลักการในด้านการปฎิบัติกับลัคนาให้ถูกต้องตามความเป็นจริงด้วย
อย่างไรก็ตาม การพยากรณ์ดวงชะตา ก็สมควรใช้ทั้งด้านการพยากรณ์แบบดาวกระทบดาวและด้านการพยากรณ์ลัคนาควบคู่กันไปโดยตลอด ถ้าพยากรณ์ด้านดาวกระทบดาวไม่ถูกต้องก็จะจับความหมายได้ว่ามีการคลาดเคลื่อนอยู่กับวันเกิด แต่ถ้าด้านลัคนาไม่ถูกต้องก็จะจับความหมายได้ว่าการคลาดเคลื่อนนั้นขึ้นอยู่กับเวลาเกิด
