นักษัตร
ตำราทางวิชาการฝ่ายนักษัตรได้มีมาก่อนโหราศาสตร์ แต่ก็มีที่มาจากประเทศอินเดียเช่นกัน โดยได้เข้าสู่ประเทศจีนพร้อมกับพระพุทธศาสนา และส่วนหนึ่งได้เผยแพร่ต่อมายังประเทศไทย ใช้ทำนายทางด้านสิ่งแวดล้อมและเหตุการณ์ทั่วไป แต่ไม่สามารถทำนายด้านส่วนตัวของบุคคลได้ เช่น กรณีที่บุคคลอื่นเป็นผู้ตัดสินว่าเจ้าชะตาสมควรจะได้รับสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือไม่สมควรที่จะได้รับ ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
นักษัตรปี เริ่มตั้งแต่ชวดที่ราศีธนู - เป็นจุดเริ่มในการสร้างดวงเกษตรของทางฝ่ายโหราศาสตร์ขึ้นมา (ดวงเกษตรและสัตตะเคราะห์)
นักษัตรเดือน เริ่มตั้งแต่ชวดที่ราศีเมษไปจนถึงกุนที่ราศีมีน - เป็นจุดเริ่มในการสร้างฝ่ายราศีเกณฑ์ของโหราศาสตร์ขึ้นมา (ดวงอุจจ์และอัฏฐเคราะห์)
นักษัตรวัน เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ราศีศูนย์ (ราศีเมษ) ไปจนถึงวันเสาร์ที่ราศีหก (ราศีตุลย์) - เป็นจุดเริ่มของการสร้างวิธีทำนายแบบเลข 7 ตัว เพื่อใช้ทำนายทางด้านส่วนตัวบุคคล (แม้ว่าจะมีเพียง 7 วัน แต่ก็อยู่ในรูปแบบของทวาทศราศีเช่นเดียวกัน)
*เป็นที่มาของคำว่า “สามนักษัตร”
การจัดธาตุนักษัตรลงไว้ในทวาทศราศี
โดยเริ่มต้นนับปีชวดที่ราศีธนู นับ 6 ตามจักรราศี และนับ 4 (ย้อนจักรราศี) สลับกันไปจนถึงปีกุนที่ราศีมีน
ราศีกรกฏกับราศีกุมภ์ หรือ ปีเถาะกับปีขาล ถือเป็นปรปักษ์ต่อกัน ตามคำกล่าวที่ว่า ธาตุไม้ต่อธาตุไม้มิดี โดยที่ราศีกุมภ์จะมีสถานะเหนือกว่า
ราศีสิงห์กับราศีมังกร หรือ ปีวอกกับปีระกา ถือเป็นปรปักษ์อย่างแรงต่อกัน ตามคำกล่าวที่ว่า ธาตุเหล็กต่อธาตุเหล็ก จะตายจากกัน โดยที่ราศีมังกรจะมีสถานะเหนือกว่า
สังเกตว่า พุธ-ธาตุเถ้า และศุกร์-ธาตุลม ไม่มีในทวาทศราศี
การนำสัตตะเคราะห์เข้าสู่ทวาทศราศีนักษัตรปีด้วยธาตุ
แต่เดิมจะมี 5 องค์ คือ 3-4-5-6-7 เรียกว่า ปัญจนาคา ตอนหลังมีการรวม 1-2 เข้าไปด้วย จึงเรียกว่า สัปตนาคา (สัตตะเคราะห์)
บทบาททางนักษัตรกับดวงชะตาทางฝ่ายโหราศาสตร์
เนื่องจากในวันขึ้น 12 ค่ำ แห่งจิตรมาส ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นกลียุค และเริ่มต้นกลียุคศักราช ซึ่งเริ่มต้นคัมภีร์พระสุริยยาตร์นั้น ได้มีการเรียกว่าเป็นวันมหาสงกรานต์ ปรากฏว่ามีดาวพระเคราะห์ทั้ง 7 ดวง มาร่วมกันอยู่ที่ศูนย์องศาแห่งราศีเมษ และปรากฏว่าจุดศูนย์องศาแห่งราศีเมษนี้ได้ตรงกันอยู่ทั้งทวาทศราศีของฝ่ายนักษัตรและตรงกับจักรราศีของฝ่ายโหราศาสตร์ด้วย แสดงถึงลักษณะแบบแผนทางด้านดวงชะตา ซึ่งมีความหมายไปถึงส่วนเป็นพื้นที่นั้น มีทวาทศราศีทางฝ่ายนักษัตรถูกต้องตรงกันอยู่กับจักรราศีทางฝ่ายโหราศาสตร์ เพราะฉะนั้น ถ้าจะมีการใช้บทบาททางฝ่ายนักษัตรที่แท้จริงให้ประกอบการพยากรณ์ซ้อนลงไปกับดวงชะตาทางฝ่ายโหราศาสตร์ที่แท้จริง จึงไม่มีอะไรที่จะติดขัดทางด้านราศีแต่ประการใด